วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ปาฏิหาริย์สมเด็จพระญาณสังวร





                                                               สมเด็จพระญาณสังวรฯ

...เมื่อ ปี พ.ศ.๒๕๒๘ ...อยู่มาวันหนึ่งผมได้เข้าไปคุยกับคุณพ่อที่ห้องสมุดของท่าน เราก็ได้สนทนากัน
ไปในหลายเรื่องด้วยกัน พอมาถึงประเด็นเกี่ยวกับพระศาสนา ผมได้ถามคุณพ่อว่า " ในปัจจุบันนี้คุณพ่อ
เห็นว่าพระสงฆ์องค์ใดที่จะเป็นเนื้อนาบุญให้ผู้คนได้กราบไหว้สักการะกันได้บ้างละครับ " 
...คุณพ่อตอบว่า " ที่พ่อเห็นก็น่าจะเป็นสมเด็จพระญาณสังวรฯ องค์นี้แหละ ทีเป็นช้างเผือกในกรุง 
ต่อไปคงไม่แคล้วจะได้เป็นพระสังฆราชอย่างแน่นอน..." 

...ผมก็เลยจดจำชื่อสมเด็จพระญาณสังวรจนขึ้นใจเลยทีเดียว และต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๓๑ เมื่อสมเด็จพระ
อริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช [ วาสน์ วาสโน ] ได้สิ้นพระชนม์ลง ทำให้ตำแหน่งพระสังฆราชได้ว่างลง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชจึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ สถาปนา
พระองค์ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช ในราชทินนามเดิมคือ...

...สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก...

...ย้อนไปในปี พ.ศ.๒๕๓๕ ...ในปีนั้นผมเดินทางขึ้นไปนมัสการ ล.ป.บุดดา ถาวโร และ ล.พ.เกษม เขมโก
ทั้ง ๒ องค์ นี้เป็นประจำ...มีอยู่วันหนึ่งได้เดินทางมาที่วัดบวรนิเวศ...เผอิญได้พกพาวัตถุมงคลของ...
 ล.ป.บุดดาและ ล.พ.เกษม ไปด้วยทั้ง ๒ องค์ เดินไปที่โบสถ์ตรงหน้าต่างมองเห็นสมเด็จพระญาณสังวร
กำลังทำพิธีอยู่ในโบสถ์กำลังจะเสร็จสิ้นพิธีอยู่พอดี ตอนนั้นตั้งจิตปัจจุบันทันด่วนขึ้นมาว่า อยากให้...
สมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระญาณสังวร เดินมารดน้ำมนต์ให้ที่ถุงใส่วัตถุมงคลของทั้ง ๒ องค์ ที่หน้าต่างโบสถ์ที่ผมยืนอยู่กับเพื่อนๆอีก ๔ คน ซึ่งตอนนั้นไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะตอนที่ตั้งจิตอธิษฐาน
อยู่นั้น สมเด็จพระญาณสังวร ท่านทำพิธีเสร็จจะเดินออกไปทางประตูอยู่แล้ว...ทันใดนั้นเหมือนฟ้าประทาน พออธิษฐานเสร็จสิ้น สมเด็จท่านเดินไปถึงประตูทางออกแล้ว แต่กลับหยุดเดินต่อ แต่กลับหัน
หลังกลับและเดินมาที่หน้าต่างที่ผมยืนถือถุงวัตถุมงคลทั้ง ๒ องค์อยู่ พอท่านมาถึงที่หน้าต่าง จ้องมองหน้าผมเล็กน้อยแล้วก็เอื้อมมือไปหยิบไม้มงคลและจุ่มน้ำมนต์ที่ทำพิธี ซัดโปรยมาที่ถุงวัตถุมงคลของผมอย่างเต็มที่...ตอนนั้นผมรู้สึกปลาบปลื้มและตื้นตันใจเป็นที่สุดเหลือกำลัง...ได้สติอีกทีท่านก็เดินคล้อยหลังออกประตูทางออกและลับตาผมไปในที่สุด...คำเดียวที่ผมคิดออกในขณะนั้นก็คือ...

...เจโตปริยญาณ...

...และต่อมาเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๗ ช่วงที่สมเด็จพระญาณสังวรทรงประชวรอยู่ มีผู้ใหญ่ที่ผมนับถือท่านได้
พาผมและภรรยาไปเยี่ยมสมเด็จพระสังฆราชได้ตามใจที่ประสงค์จะไปเยี่ยมเยียนท่านอยู้แล้ว จึงนับว่าเป็นโอกาสที่สุดแสนวิเศษเหลือคำพรรณาใดๆ ...จึงมีภาพด้านล่างให้ทุกคนได้ชมกันนะครับ...