วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ความเข้าใจในเรื่องโหราศาสตร์









 ...โหราศาสตร์เป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่ควบคู่กันมากับศาสตร์แขนงอื่นนับพันปี และได้พัฒนา

มาตามลำดับจนเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป โหราศาสตร์ไทยมาตรฐานเป็นโหราศาสตร์ชั้นสูง

สามารถพยากรณ์ดวงชาตาจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน และอนาคต รอบตัวเรา ยังมีอีกหลาย

หลากเรื่อง หลายกรณี ที่ไม่อาจจะหยั่งรู้ได้ด้วยตัวเอง การพยากรณ์จากดวงของเจ้าชาตา 

เป็นการพยากรณ์ที่ละเอียด ลึกซึ้ง และแม่นยำ บอกถึงโชคชาตาความเป็นไปในชีวิตเบื้องหน้า

และเบื้องหลังที่เกิดขึ้นกับเจ้าชาตาเพื่อที่จะหาทางแก้ไข หรือปรับปรุงชีวิตขึ้นมาได้อย่างน่า

อัศจรรย์ การผูกดวงชาตา ต้องอาศัยการคำนวณจากวัน เดือน ปี และเวลาเกิดของเจ้าชาตา

จึงจะสามารถบอกได้ว่า ดวงดาวต่างๆนั้นอยู่ในตำแหน่งใด ...



 ... ดวงดาวที่นำมาใช้ในโหราศาสตร์นั้น เริ่มจากดวงอาทิตย์ จันทร์ พุธ ศุกร์ อังคาร พฤหัส

 เสาร์ ตามลำดับ และยังมี ราหูกับเกตุ รวมทั้งมฤตยู เนปจูน พลูโต เมื่อคำนวณได้ว่าดวงดาว

ทั้งหมดนี้  อยู่ในตำแหน่งที่ดีหรือเสียอย่างไร การอ่านคำพยากรณ์ก็จะเริ่มต้นขึ้นได้ทันที 

โดยท่านสามารถซักถามรายละเอียดที่เกี่ยวกับชีวิตครอบครัว ญาติพี่น้อง การงาน การเงิน 

และชีวิตสมรส เพื่อที่จะได้นำไปเป็นแนวทางที่จะต้องแก้ไข หรือปรับปรุงชีวิตของท่านเอง 

โดยรู้ล่วงหน้าว่าควรทำอย่างไร  ฉะนั้นการพยากรณ์ดวงชาตาจึงเป็นประโยชน์อย่างมหาศาล  

ต่อผู้ที่ได้รับทราบถึงเรื่องราวความเป็นไปของชีวิต และป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด

 ดังนั้นความเสียหายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นก็ย่อมน้อยลงไปและขึ้นอยู่กับตัวท่านเองด้วยว่า 

จะยอมรับความเป็นจริงและยอมที่จะปฏิบัติตามหรือไม่ ...



... การเรียนรู้โหราศาสตร์ ก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับทุกคน เพราะจะทำให้เราล่วงรู้อนาคตของ

ตนเอง คนใกล้ชิดและสังคมที่เราต้องเผชิญหน้าต่อสู้กับมันในโลกกว้างใบนี้ การรู้ตัวล่วงหน้า

ทำให้เราสามารถแก้ไข สถานะการณ์ต่างๆที่จะอุบัติขึ้นมาได้ ถ้าเป็นเรื่องร้ายเราก็สามารถที่

จะป้องกันทำให้จากหนักเป็นเบาลงได้ หากเป็นเรื่องดีเราก็ต้องรีบขวนขวายอุตสาหะ ทำให้

เรื่องนั้นเกิดเป็นจริงขึ้นมาดีเลิศเกินความคาดหมายเรา อย่าไปกลัวว่าการรู้อนาคตที่ดีหรือเลว

นั้น จะทำให้เกิดวิตกจริตหรือยินดีปรีดาเกินขอบเขตไป หากคนเรารู้จักคำว่า ...


 
   รู้จักพอ  ก่อสุข   ทุกสถาน
   
   รู้จักพอ  ต่อการ  แสวงหา
   
   รู้จักพอ  ก่อสุข   ทุกเวลา
   
   รู้จักพอ พระท่านว่า นั่นแหละดี



แล้วไซร้...ความเป็นอยู่ของคนบนโลกนี้ก็คงจะอยู่อย่างมีสันติสุข ปรองดองและมีความสามัคคี

ร่วมกัน โลกใบนี้ก็จะมีแต่ความสุข ความเจริญ ความรุ่งเรืองตลอดไปชั่วกาลนาน ...




... สวัสดีครับ ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น